ศ.ดร.กฤษณ์ชนม์ ภูมิกิตติพิชญ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) พร้อมด้วย รศ.ดร.สุมนมาลย์ เนียมหลาง รองอธิการบดี ผศ.ดร.นิพัทธ์ จงสวัสดิ์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอาจารย์นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ธัญบุรี เข้าร่วมโครงการ “CaRe Listening: SMS-Successor Meet Supporter สร้างแรงบันดาลใจ ก้าวสู่เส้นชัยในเวทีโลก” โดยมี รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นประธานเปิดโครงการฯ ที่จัดขึ้นโดยศูนย์เครือข่ายวิจัยนานาชาติ ณ โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ โดยในงานนี้มีการบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากนักวิชาการระดับนานาชาติที่ประสบความสำเร็จ การแถลงนโยบายจากผู้นำทางด้านวิจัยและแหล่งทุนสนับสนุน รวมถึงชี้แนวทางการพัฒนานักวิจัยไทยสู่เวทีโลกในอนาคต ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และมุ่งยกระดับนักวิจัยไทยให้เป็นแกนนำในเครือข่ายระดับนานาชาติ
ทั้งนี้ ในโครงการ CaRe Network. มี ผศ.ดร.กมลรัตน์ สมบุตร หัวหน้าหน่วยวิจัยด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์สำหรับวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม (AMSERU) อาจารย์ประจำสาขาวิชาคณิตศาสตร์ รศ.ดร.วิยดา คำเอม ผศ.ดร.กรวุฒิ กำมหาวงศ์ ผศ.ดร.วิมลมาศ บำรุงเศรษฐพงษ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสถิติประยุกต์ มทร.ธัญบุรี นักวิจัยในโครงการฯ ร่วมเป็นคณะกรรมการดำเนินการโครงการ CaRe Listening. เพื่อถอดรูปแบบและกลไกสำคัญของนักวิจัยที่มีบทบาทสำคัญในเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งดำเนินงานภายใต้โครงการ “การยกระดับนักวิจัยไทยเพื่อเป็นแกนนำในภาคีเครือข่ายสหสาขาระดับนานาชาติ เพื่อการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนที่ลดการใช้คาร์บอน ระยะที่ 2” โดยการได้สนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ซึ่งมี ศ.ดร.ภูมิ คำเอม อาจารย์ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นประธานกรรมการดำเนินงาน
สำหรับโครงการ CaRe Network. เป็นกิจกรรมใหญ่ที่รวบรวมนักวิจัยทั่วโลกเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด มีเป้าหมายหลักคือการสร้างเครือข่ายนักวิจัยไทยให้มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก กิจกรรมครั้งนี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ และมีการนำเสนอวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเครือข่ายให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้ฟังการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก และรับฟังนโยบายสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้นักวิจัยไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในระดับนานาชาติได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการนำเอาแนวคิดการสร้างมูลค่าเพิ่มมาประยุกต์ใช้ในการวิจัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและสร้างนักวิจัยไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมทั้งหมดที่จัดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเครือข่าย CaRe Network ในการขับเคลื่อนวงการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล รวมทั้งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหลายประการ โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 7 เกี่ยวกับพลังงานสะอาดและราคาไม่แพง นอกจากนี้ การขับเคลื่อนวงการวิจัยและพัฒนายังสอดคล้องกับ SDG 9 ที่ส่งเสริมนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน การนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดไปประยุกต์ใช้ในเมืองยังช่วยให้บรรลุ SDG 11 เกี่ยวกับเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงานสะอาดก็สอดคล้องกับ SDG 13 ที่มุ่งเน้นการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศยังเป็นการสนับสนุน SDG 17 ที่ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อบรรลุเป้าหมาย SDGs ทั้งหมด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและรูปภาพทั้งหมดได้ที่ https://www.facebook.com/share/p/1DrobSopmY/