หลักสูตรผู้บริหารด้านสุขภาพแบบบูรณาการ HIDA รุ่นที่ 5 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการอย่างต่อเนื่องเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก โดยมีผู้บริหารด้านสุขภาพและบุคลากรจากหลายภาคส่วนเข้าร่วมจำนวนมาก ไฮไลต์สำคัญของงานคือการบรรยายโดย 3 วิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ที่ร่วมถ่ายทอดภาพอนาคตของสุขภาพไทยอย่างรอบด้าน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ สังคมสูงวัย และโภชนาการเชิงลึกเพื่อป้องกันโรคเรื้อรัง

ในช่วงเช้า ผู้เข้าอบรมได้รับบริการตรวจและส่งเสริมสุขภาพจากคลินิกแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน อาทิ การฝังเข็ม การนวดเพื่อสุขภาพ และบริการดูแลดวงตาและใบหน้า ช่วยเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้าสู่เนื้อหาวิชาการตลอดทั้งวัน
ช่วงบ่ายเริ่มด้วยการบรรยายจาก ผศ.ดร.โสพิศ สว่างจิตร รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งชี้ให้เห็นบทบาทของ “วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสร้างสรรค์” ที่กำลังเป็นแรงขับสำคัญของเศรษฐกิจยุคใหม่ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
จากนั้น รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอหัวข้อ “Healthy Lifespan: อยู่ดี และ ตายดี” พร้อมเปิดเผยข้อมูลจากงานวิจัยและสถานการณ์จริงที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคผู้สูงอายุ รศ.นพ.ฉันชายชี้ว่า แม้อายุเฉลี่ยของคนไทยและคนทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น แต่ช่วงเวลาที่มีสุขภาพดีไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้เกิดช่องว่างระหว่าง “การมีชีวิต” กับ “คุณภาพชีวิต” ยาวนานกว่าที่เคย
รศ.นพ.ฉันชายอธิบายอย่างละเอียดว่า สุขภาพไม่ได้ถูกกำหนดด้วยแพทย์หรือโรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว แต่กว่า 70% มาจากพฤติกรรมประจำวันของคนเรา ไม่ว่าจะเป็นอาหาร การออกกำลังกาย การนอนหลับ ความเครียด หรือสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหามลพิษ PM2.5 ที่งานวิจัยชี้ว่าทำให้อายุขัยเฉลี่ยของประชากรลดลงเกือบ 1 ปีต่อค่าฝุ่นที่เพิ่มขึ้นทุก 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
อีกประเด็นที่ได้รับความสนใจคือความเสี่ยงจาก “ข้อมูลสุขภาพผิด ๆ” บนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งวิทยากรเตือนว่ามีอิทธิพลทำให้คนจำนวนมากใช้วิธีรักษาแบบผิดหลักการ และเสี่ยงต่ออันตรายโดยไม่รู้ตัว พร้อมย้ำความจำเป็นของการมี Health Literacy หรือทักษะรู้เท่าทันสุขภาพ และชี้ว่าสิ่งง่ายที่สุดที่ทุกคนสามารถเริ่มทำได้ทันทีคือการ “เดินวันละ 7,000 ก้าว” ซึ่งมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าสามารถลดความเสี่ยงการเสียชีวิตก่อนวัยลงอย่างมีนัยสำคัญ
ปิดท้ายช่วงบ่ายด้วยการบรรยายของ ผศ.ดร.ชนิดา ปโชติการ ที่ปรึกษาสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ “โภชนาการในรูปแบบต่าง ๆ” ซึ่งอธิบายอย่างลึกซึ้งว่า “พฤติกรรมการกิน” คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่กำหนดทั้งสุขภาพและการเกิดโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคอ้วน เบาหวาน ความดัน และไขมันในเลือด ซึ่งกำลังพุ่งสูงขึ้นในไทย
ผศ.ดร.ชนิดาได้นำเสนอข้อมูลจากงานวิจัยที่ช่วยให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจง่ายขึ้น เช่น การเทียบคุณค่าของอาหารธรรมชาติ อาหารแปรรูป และอาหารแปรรูปจัดหนัก ซึ่งมีส่วนประกอบมากกว่า 25 รายการ และสร้างความเสี่ยงโรค NCDs สูงกว่าหลายเท่า รวมถึงการแนะนำวิธีคำนวณพลังงานต่อวันแบบเข้าใจง่าย การวัดรอบเอวเพื่อประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ และการนับแคลอรีจากอาหารจานเดียวที่คนไทยนิยม เช่น อาหารผัดซึ่งอาจให้พลังงานสูงถึง 800 แคลอรีในหนึ่งจานโดยไม่รู้ตัว
หนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจคือ Siam Diet หรือการประยุกต์อาหารไทยแบบดั้งเดิมให้เหมาะสมต่อการลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง ด้วยการเลือกข้าวกล้องแทนข้าวขาว เพิ่มผักพื้นบ้าน ใช้วิธีนึ่ง–ต้ม–ย่างแทนการทอด และลดการปรุงรสจัด โดยผศ.ดร.ชนิดาระบุว่า อาหารไทยแท้ดั้งเดิมนั้นมีศักยภาพสูงในการป้องกันโรค หากเลือกและจัดสัดส่วนอย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ หลักสูตร HIDA รุ่นที่ 5 มี ดร.สมชาย อัศวเศรณี เป็นประธานหลักสูตร และ พล.อ.ท.(ญ) ผศ.ดร.พัชรี พิพิธสุขสันต์ เป็นผู้อำนวยการหลักสูตร โดยมุ่งบูรณาการศาสตร์การแพทย์ทั้ง 6 มิติ ได้แก่ แพทย์แผนปัจจุบัน–แพทย์แผนไทย–แพทย์แผนจีน–ดุลยภาพบำบัด–โฮมีโอพาธีย์ และศาสตร์แห่งความสุข เพื่อสร้างผู้บริหารที่สามารถนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้สหวิชาการไปพัฒนาระบบสุขภาพไทยได้อย่างยั่งยืน
ผู้สนใจหลักสูตรสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Line: hida official, โทร. 083-015-3333 หรืออีเมล hidassru@ssru.ac.th
